วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

วันนี้คุณกินข้าวเช้าหรือยัง

หมอที่โรงพยาบาลฯอบรมว่าทุกคนต้องกินอาหารเช้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมาก ได้ หลากหลาย เพราะเมื่อร่างกายไม่มีพลังงานจากอาหารเช้าไปใช้ ร่างกายจะดึงสารอาหารจากอวัยวะส่วนอื่นออกมา (ไม่ใช่ไขมัน ไขมันยังอยู่เหมือนเดิม) ซึ่งภายใต้กระบวนการนี้จะเกิดกรดชนิดหนึ่งออกมาด้วย

ซึ่งการที่เรา บอกว่าไม่กินข้าวเช้า ก็ยังทำงานได้เป็นปกติมาตั้งหลายปีแล้ว นั่นคือ ร่างกายได้นำเอากรดที่เกิดขึ้นมาใช้แทนพลังงานทุกวัน เราจึงทำงานโดยใช้กรดแทนพลังงาน และเมื่อร่างกายต้องผลิตกรดออกมาบ่อยๆ พออายุมากขึ้นเราก็จะเป็นโรคตามมาหลายอย่าง นอกจากนี้ เรารู้หรือไม่ว่า

โดย ปกติแล้วร่างกายของมนุษย์เราผลิตสารพิษอยู่ภายในร่างกายตลอดเวลา เป็นขยะ เหมือนรถที่เมื่อเติมน้ำมันเข้าไปแล้วก็จะมีควันออกมา ภาษาทางการแพทย์เขาเรียกขยะในร่างกายนี้ว่า สารอนุมูลอิสระ(oxidant) เกิดจากการสันดาปพลังงานของร่างกาย แล้วคายของเสียออกมา(ไม่ใช่อุจจาระนะ คนละแบบ)

นอกจากนี้ร่างกายจะเร่งผลิตสารอนุมูลอิสระอีกก็ต่อเมื่อ เวลาเราเครียดหรือต้อง ทำงานหนัก ใช้สมอง ประกอบกับเจอมลภาวะต่างๆ สภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ อุปนิสัยการดื่มสุรา สูบบุหรี่ ก็ยิ่งเป็นตัวสร้างให้เกิดสารพิษนี้มาก การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอตอนกลางคืนเป็นหนทางและเวลาสำคัญที่ร่างกายจะ สร้า งสารต่อต้านสารอนุมูลอิสระ(anti-oxidant) ขึ้น เพื่อกำจัดสารอนุมูลอิสระที่เกิดตอนกลางวัน การนอนให้เพียงพอและหลับสนิทจะเป็นประโยชน์ไม่เฉพาะการกำจัดของเสีย แต่ยังช่วยให้เม็ดเลือดแดงของคนเราแข็งแรง สร้างฮอร์โมนเพศทำให้ร่างกายสมบูรณ์ มีน้ำมีนวล คุณหมอเอาภาพขยายเม็ดเลือดแดงของผู้จัดการชายอายุ 35 คนหนึ่งซึ่งเป็นคนไข้มาให้ดู เปรียบเทียบกัน 2 ภาพ ผู้ชายคนนี้เหมือนมนุษย์งานทั่วไป ทำงานหนักและเครียดขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ ปรากฎว่าจำนวนเม็ดเลือดแดงของเขามีลักษณะเป็นก้อนขยุกขยุยไม่เป็นรูปทรงกลม เหมือนกลุ่มเม็ดเลือดแดงที่ควรเป็น เกิดความผิดปกติขึ้นเนื่องจาสารอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจำนวนมากไปทำลายเซลล์ เม็ดเลือดแดงในร่างกาย ซึ่งก็จะนำมาซึ่งโรคร้ายจำนวนมากอย่างที่คนไทยกำลังนิยมอยู่ จงจำไว้ว่า 

1.ทาน อาหารเช้าแบบราชา อาหารกลางวันพอประมาณ และอาหารเย็นแบบยาจก หลีกเลี่ยงไขมันและของหวาน ออกกำลังกายให้ได้วันละอย่างน้อย 30-40 นาที(20นาทีแรกร่างกายเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต อีก 10-20 นาทีต่อมาร่างกายจึงจะค่อยเผาพลาญไขมัน)  
2.นอนหลับ หรือ หลับนอนก็แล้วแต่ ให้เพียงพอ  
3.รับแสงแดด ช่วง 8.00-9.00 ซึ่งมี UV ที่เป็นประโยชน์  
4.พยายามเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการหัวเราะ ขำขัน ถ้าบ้าได้ก็ดี ชีวีจะเป็นสุข

ที่มา : http://heyhaparty.blogspot.com/2007/10/blog-post_853.html

สัตว์มงคลของจีน

สัตว์รูปคล้ายสิงโตที่เรียกว่า พีซิว มีตำนานเล่าขานในทางมงคลถึง พีซิว มากมายโดยเฉพาะเรื่องราวในยุคต้นราชวงศ์ “ ชิง” (ราชวงศ์แมนจู) เล่ากันว่า เมื่อยุคเฉียนหลงฮ่องเต้ ครั้งยังเป็นองค์ รัชทายาท เรียกกันว่า “องค์ชายสี่” มีนักพรตท่านหนึ่งนำ พีซิว มามอบให้ โดย กำชับให้หมั่นดูแลทะนุถนอม พีซิวจักคุ้มครอง ปกป้องภัย และส่งพลังให้ขึ้นสู่ราช บัลลังก์ ซึ่งองค์ชายสี่ก็ได้ทำตามนั้น จวบจนต่อมาได้ขึ้นครองราชย์ พระองค์จึง พระราชทานยศตำแหน่งแก่ พีซิว นาม “เทียนลู่” (บารมียศแห่งสวรรค์) และอยู่คู่ เฉียนหลงฮ่องเต้ตลอดรัชสมัย 60 ปีที่ครองราชย์ ซึ่งนับเป็นระยะเวลาแห่งการครอง ราชย์อันยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์จีน ปัจจุบัน พีซิว ตัวดังกล่าว ตั้งอยู่ ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติไต้หวัน

.: ปลา - สัตว์มงคลจีน
:. ปลาเป็นสัญลักษณ์มงคลอย่างหนึ่งของชาวจีน เพราะคำว่า หยู ที่หมายถึงปลา พ้อง เสียงกับคำว่า หยู ที่หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ ปลาจึงเป็นสัญลักษณ์ของความ มั่งคั่ง ภาพเด็กกับปลา มีความหมายว่า "ขอให้จงมีความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์จากลูก ชายที่ได้รับตำแหน่งสูงขึ้น" นอกจากอาหารอย่างอื่นแล้ว ชาวจีนนิยมใช้ปลาเป็นเครื่องเซ่นไหว้เทพเจ้าด้วย ใน ภาคกลางของจีนมีการใช้หัวปลา เพื่อเซ่นไหว้เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย ด้วย ความเชื่อว่าเป็นการเริ่มต้นของความมั่งคั่ง และปลายังเป็นอาหารที่นิยมปรุงรับ ประทานในตอนปีใหม่สำหรับผู้คนทั่วไปด้วย IPB Image

ปลาคาร์พ (หลี่)
ชาวจีนเรียกปลาคาร์พว่า หลี่ เนื่องจากคำนี้มีเสียงใกล้กับคำว่า ลี่ ที่หมายถึง ผลกำไร หรือประโยชน์ ปลาคาร์พจึงเป็นสัญลักษณ์ของความปรารถนาจะได้ผลกำไรหรือ ประโยชน์จากการทำธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีแนวคิดเพิ่มเติมว่าปลาชนิดนี้สามารถ กระโดดขึ้นไปทางตอนบนของแม่น้ำเหลือง (ที่ประตูมังกร) ได้ ความพยายามเช่นนี้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับความสำเร็จใน การสอบเข้ารับราชการ การประสบความสำเร็จดังกล่าวนี้นับว่ายิ่งใหญ่ และต้องการ การเตรียมตัวที่ยาวนาน ด้วยเหตุนี้ปลาคาร์พจึงเป็นสัญลักษณ์ของความอดทนและมั่น คง ส่วนหนวดปลานั้นเป็นเครื่องหมายของพลังอำนาจเหนือธรรมชาติ และพลังวิเศษ ภาพ ชาวประมงกำลังขายปลาแก่หญิงและลูก แสดงความปรารถนาจะมีรายได้ที่ดี และมีความ ก้าวหน้าในสังคม ส่วนภาพหญิงสาวมีสาวใช้อีกคนยืนอยู่ริมน้ำ พร้อมถังบรรจุปลา คาร์พซึ่งพยายามกระโดดออก เป็นการอวยพรให้ผู้รับภาพนี้ได้มีอำนาจเหนือผู้คนทั่ว ไป และภาพเด็ก ปลาคาร์ม และดอกบัว หมายถึง "ของจงมีบางสิ่งอยู่ทุกปี)

ปลาทอง (จิน หยู)
คนจีนชอบปลาทองมาก และเลี้ยงไว้ในอ่างในบ้าน หรือในสระที่สวนของวัด คำว่าปลาทอง ในภาษาจีนมีเสียงพ้องกับคำที่หมายถึง "มีทองล้นหลาม" ปลาทองจึงมักจะเป็นของขวัญ สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่นิยมมอบให้กันในวันมงคลต่างๆ เมื่อวาดภาพปลาทองและดอกบัว ไว้ด้วยกัน จะหมายถึงทองคำและหยกอยู่ด้วยกัน ภาพปลาทองคู่เป็นสัญลักษณ์ของความ เติบโต แต่ปลาทองอาจใช้เป็นตัวแทนของคนรักของแม่ม่ายหรือผู้ชายแมงดา

ปลาไหล (ซ่าน)
มี ตำนานเล่าว่าเมื่อครั้งน้ำท่วมโลก อำมาตย์คนหนึ่งผู้รับใช้จักรพรรดิกงกงใน ตำนานเทพ เป็นผู้พลิกแก้สถานการณ์น้ำท่วม และที่แท้เขาก็คือปลาไหล อีกตำนานซึ่ง เหลืออยู่เพียงบางส่วนในปัจจุบัน กล่าวว่า เทพเจ้าแห่งน้ำแยงชีใช้ปลาไหลอุดรู รั่วของเรือ นอกจากนี้ ชาวจีนเชื่อว่าการกินปลาไหล จะต้องกินส่วนอื่นๆ แล้วค่อย ตัดหัวปลา และหากนำหัวปลานี้ไปด้วย จะมีเงินทองไหลมาเทมา และยังจะชนะพนันทั้ง ปวงด้วย

หงส์ - สัตว์มงคลจีน
:. หงส์ของจีน ถือเป็นสัตว์ในเทพนิยายที่มีลักษณะแปลกประหลาดมาก เป็นนกที่มี คุณลักษณะเหนือธรรมชาติ เพราะแม้จะมีรูปร่างเป็นนกแต่เป็นนกที่พิเศษสุด เนื่อง จากเอาลักษณะบางอย่างมาจาก นกเหยี่ยว นกอินทรี ไก่ฟ้า นกยูง นกตะกรุม นกกระสา นกกระยางขาวใหญ่ และนกอื่นๆ อันล้วนเป็นนักชั้นยอด เป็นนกวิเศษเหนือนกทั้งปวง เป็นราชาแห่งนก มีสีสันสวยงาม เป็นหนึ่งตามจินตนาการและความเชื่อของคนจีน หงส์เป็นสัตว์สิริมงคลและศักดิ์สิทธิ์ เป็นสัตว์ที่คนจีนมีความปีติชื่นชอบมาก ที่สุดชนิดหนึ่ง มีรูปร่างสวยงาม สะโอดสะอง มีความอ่อนหวาน มีบุคลิกสีสันคล้าย ผู้หญิง มีความสุภาพเป็นผู้ดี ชาวจีนเรียกว่า "เฟิ่งหวง" หงส์เป็นดั่งเทพเจ้า สามารถหยั่งรู้ความสุข ความทุกข์ ความวุ่นวายในโลกมนุษย์ได้ หงส์จึงมักจะมา ปรากฏตัวต่อเมื่อบ้านเมืองสงบสุข แผ่นดินมีคนดีมาเกิด ตามความเชื่อเรื่องสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ประจำทิศของคนจีน หงส์เป็นสัตว์ที่มี หน้าที่ประจำอยู่ทิศใต้ เป็นสัญลักษณ์แห่งฤกษ์งามยามดีในวิถีชีวิตของคนจีน จึง กลายเป็นปกติสามัญที่จะได้พบรูปหงส์ในงานศิลปะจีนและในงานหัตถกรรมทั่วไป และมี คำกล่าวอวยพรที่ได้ยินอยู่เสมอ เช่น "ขอเทพเจ้ามังกรและเทพหงส์อำนวยพรให้ท่านจง โชคดี" IPB Imageตามหลักฮวงจุ้ย หงส์เป็นนกที่มีความศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติ 1 ใน 4 ชนิดที่ถูกกำหนดให้ดูแลรักษาทิศใหญ่ของโลก กล่าวคือ หงศ์สีแดงเข้มอยู่ประจำทิศ ใต้ มังกรสีฟ้าสดหรือสีน้ำเงินอยู่ประจำทิศตะวันออก เสือขาวอยู่ประจำทิศตะวันตก และเต่าดำหรืองูดำอยู่ประจำทิศเหนือ

คุณลักษณะของหงส์
กล่าวกันว่า หงส์ เป็นนกที่เกิดจากการปรุงแต่งขึ้นมาจากนกที่มีความสำคัญหลาย ชนิดด้วยกัน คือ
หัว ได้รับอิทธิพลแบบอย่างมาจากไก่ฟ้า
หงอน ได้มากจากนกเป็ดหงส์
จงอยปาก ได้มาจากนกนางแอ่น
หลัง ได้มาจากเต่า
หาง ได้มาจากสัตว์จำพวกปลา

ซึ่ง นับว่าแปลกมากที่ได้แบบอย่างมาจากสัตว์น้ำด้วย มิใช่เอามาจากสัตว์ปีก เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม โดยมากเราก็จะเห็นหงส์มีส่วนประกอบของนกยูง และไก่ฟ้า หางยาวอยู่เป็นอันมาก ดังจะพบว่ามีจำนวนหลายสี และเป็นมันเลื่อมสวยงามตลอดทั้ง ตัว ขนส่วนหางมี 12 เส้น และขนหางแต่ละขนมี 5 สี คือ แดง ม่วง เขียว เหลือง และ ขาว บางตำราจึงได้แบ่งนกหงส์ออกเป็น 5 ชนิด คือ ชนิดขนแดง ขนสีม่วง ขนสีเขียว ขนสีเหลือ และขนสีขาว และชนิดสีขาวเรียกกันโดยทั่วไปว่า ห่านฟ้า ชาวจีนเรียกหงส์ว่าเฟิ่งหวง เป็นนกที่มีความสูงราว 5 ศอก หากดูด้านหน้าคล้ายกับ ห่านป่า มองด้านหลังคล้ายกับกิเลนหรือสัตว์ผสมลูกครึ่ง ส่วนคอดูคล้ายกับงูคือ กลมเรียวยาว มองหางคล้ายกับหางปลา ขนดูคล้ายเกล็ดมังกร ส่วนหลังดูคล้ายเสือ เหนียงคอดูคล้ายนกนางแอ่น ลำคอและจงอยปากคล้ายไก่ตัวผู้ หงส์ตามปกติจะหากินอยู่บนภูเขาในป่าไกลโพ้น เรียกกันว่า "เขาแดง" คล้ายในป่า หิมพานต์ไม่มีใครไปถึง เป็นนกที่ไม่กินแมลงที่มีชีวิต ไม่จิกกินต้นไม้อ่อนที่ ยังเขียวสดอยู่ จะกินอาหารเพียงแต่เมล็ดดอกต้นไผ่เท่านั้น และกินน้ำหวานที่เกิด ขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ มีเสียงร้อยคล้ายกับเสียงสวรรค์อันแปลกประหลาด บ้างว่าคล้าย เสียงขลุ่ย ไม่อยู่เป็นกลุ่มหรือเป็นฝูง ไม่บินเร่ร่อนไปในที่ต่างๆ อาศัยอยู่ แต่เพียงบนต้นไม้ซึ่งมีชื่อว่า ต้นหวู-ถุง ซึ่งแวดล้อมตกแต่งด้วยดอกไม้รูป คล้ายกระดิ่ง ใบใหญ่ ใบมันจะงอกแตกโตเร็วและร่วงในฤดูในไม้ร่วง ออกผลแพร่พันธุ์ ในช่วงทำขนมไหว้พระจันทร์ หรือเทศกลางกลางฤดูใบไม้ร่วงเดือน 8

หงส์ เป็นนกที่สามารถหยั่งรู้ความเป็นไปในโลกล่วงหน้า จนกระทั่งเมื่อยามใดบ้าน เมืองมีสันติสุขอย่างแท้จริง หงส์จึงจะออกมาปรากฏตัวให้เห็นในเส้นทางที่ไม่มี ใครรู้ร่องรอย และขณะเมื่อหงส์บินออกมานั้นจะมีบรรดานกต่างๆ บินตามมาเป็นขบวน เป็นฝูงใหญ่ยาวมาก หงส์มีความเมตตากรุณาคล้ายกิบกิเลน ไม่เคยเจ็บป่วยเป็น อันตรายใดๆ ยกเว้นแต่งูที่มีพิษอาจทำอันตรายได้

หงส์มีอายุยืนยาวประมาณ 500 ปี จากนั้นก็จะบินตรงไปยังดวงอาทิตย์เพื่อให้ความ ร้อนแผดเผาร่างกายเป็นเถ้าถ่าย เป็นการบูชายันต์ตนเอง หงส์หนุ่มสาวเมื่อเกิดมา ได้ 3 วัน มันก็จะบินจากไปอาศัยอยู่ที่อื่นเป็นอิสระโดดเดี่ยว จนกว่าจะมีอายุ ได้ 500 ปี จึงสิ้นอายุขัย ด้วยเหตุนี้นกหงส์จึงถือว่าเป็นผลิตผลจากดวงอาทิตย์ และไฟ

ความหมายสิริมงคลของหงส์
หงส์ของจีนเป็นสัญลักษณ์แห่งดวง อาทิตย์และความอบอุ่นสำหรับฤดูร้อนและฤดูเก็บ เกี่ยวพืชไร่ และเป็นเครื่องหมายที่คุณงามความดี ตามนิทานเล่าว่า หงส์มาปรากฏ ตัวในครั้งที่นักปราชญ์ขงจื๊อเกิดพอดี หงส์ได้กลายเป็นส่วนร่วมของการทำพิธี เคารพบูชาระหว่างสมัยราชวงศ์ฮั่น และการกล่าวอ้างการมาเยือนของหงส์เกิดขึ้น บ่อยๆ เพื่อการที่จะป่าวประกาศว่าการปกครองแผ่นดินในแต่ละรัชกาลนั้นประผลสำเร็จ ด้วยดี จึงมีคำกล่าวเกี่ยวกับหงส์หลายสำนวน เช่น หงส์สำแดงฤทธิ์เหมือนผู้นำมาซึ่งการเกิดอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ หงส์จะลงสู่พื้นดินเพียงแต่เมื่อมีบางสิ่งที่แวดล้อมอยู่นั้นมีค่าพอ หงส์นำมาซึ่งความมั่งคั่งโภคทรัพย์ เมื่อหงส์ปรากฏโลกจะยินดีต่อสันติภาพอันยิ่งใหญ่ และสะดวกสบาย สัญลักษณ์ลักทธิเต๋า คือ สัญลักษณ์หงส์เก้าตัวสำหรับทำลายล้างความสกปรก
สัญลักษณ์งานมงคลสมรสหงส์คู่มังกร

มี การจัดคู่สัตว์ที่แน่นอนตามรูปแบบสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคลในวัฒนธรรม จีน ที่สำ คัญที่สุดกว่าอะไรทั้งหมด คือ คู่ของมังกรกับหงส์พร้อมด้วยไข่มุก ซึ่งจะเห็น บ่อยครั้งในบัตรเชิญแต่งงาน สิ่งสำคัญอย่างแท้จริงในสัญลักษณ์หงส์กับมังกรคือ " หงส์คู่มังกรขอให้มีโชคลาภสถาพร"

สาเหตุที่ใช้หงส์คู่มังกรในพิธี แต่งงานของชาวจีน คือ มังกรเป็นภาพสมมติให้เป็น สัญลักษณ์ของเพศชายผู้มีพลังอำนาจ ขณะที่หงส์เป็นตันแทนแห่งเพศหญิง อันถือเป็น การแสดงความเคารพต่อเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ในการจับคู่เปรียบเทียบที่ได้จากหงส์และ มังกรมี 5 ประการ คือ มังกร (ด้านซ้าย) หงส์ (ด้านขวา) ความรู้หรือความฉลาด ความงดงาม นิ่มนวล ประสบการณ์ เป็นธรรมชาติ การฝึกหัด มีเหตุผล ความสุขุม ความสามารถทางเสี่ยงโชค ความอดทน มีชีวิตอันควรเคารพ

ที่มา : http://heyhaparty.blogspot.com/2007/11/blog-post_15.html

ภาวะสมองเสื่อม..กับไข่ไก่

เห็นว่ามีคุณค่าและเป็นประโยชน์ จึงอยากเผยแพร่ต่อ....
หากใครได้ดู รายการ "ข้อเท็จจริง..วันนี้" ทางช่องยูบีซี 7 ที่มีการการพูดคุยกับ ศ.นพ.รุ่งธรรม ลัดพลี เกี่ยวกับเรื่อง "ภาวะสมองเสื่อง..กับไข่ไก่" เรื่องที่มีการการสนทนากันนั้น พอจับใจความหลักๆ ได้ว่า ... จากค่านิยมเดิมๆที่ทราบกันว่า การบริโภคไข่ทุกวันนั้น จะไปเพิ่มระดับคลอเลสเตอรอลในเลือด ทางคุณหมอบอกว่าอยากให้เลิกค่านิยมดังกล่าวเสีย เพราะข้อเท็จจริงในปัจจุบันนั้น ไข่นับว่าเป็นอาหารราคาถูก ปรุงง่าย แต่มากด้วยคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด การที่หลายๆคนมีระดับคลอเสลเตอรอลในเลือดสูงนั้น เป็นเพราะตับทำงานไม่มีประสิทธิภาพเอง คุณหมอยังกล่าวอีกว่า สำหรับคนที่มีระดับคลอเลสเตอรอลสูงในระดับ 200 นั้น หากทานไข่แล้ว มันไปเพิ่มอีกเพียง 20 แต่ตรงกันข้ามประโยชน์ที่ได้จากการทานไข่ มันมากกว่าไอ้ส่วนที่ไปเพิ่มระดับคลอเลสเตอรอลในเลือด คุณหมอบอกว่า โรคอัลไซเมอร์นั้น ผลการวิจัยล่าสุด ระบุว่า เป็นเพราะอาการเลือดในสมองน้อย หรือเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ การรับประทานไข่ทุกวันๆละ อย่างน้อย 2 ฟอง จะช่วยได้มาก คุณหมอยังอ้างถึงและพูดถึงผู้สูงอายุว่าการบริโภคไข่ทุกวันนั้น ไม่มีปัญหาดังที่เราๆเข้าใจกันแบบผิดๆ คุณหมอรักษาผู้สูงอายุหลายๆคนที่มาให้การรักษาในหลายๆโรค ขนาดอายุ 80 กว่า คุณหมอยังแนะนำให้ทานไข่วันละ 2 ฟอง ผลก็คืออาการของโรคที่รักษาบรรเทาลง คนไข้มีอาการดีขึ้นกว่าเดิมมาก จากที่เดินไม่ค่อยได้ ก็กลับมาเดินได้ นี่เป็นตัวอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ไข่มีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไข่ไก่,ไข่เป็ด,ไข่นกกระทา, และอีกหลายๆชนิด แต่ไข่ไก่ดีที่สุดในกลุ่ม ส่วนการนำมาประกอบอาหารนั้นแล้วแต่ใจชอบ ประกอบอาหารแบบไหนได้ทั้งนั้น คุณหมอเสริมว่า ส่วนของไข่ที่ดีที่สุดนั้น อยู่ที่จุดๆหนึ่งในไข่แดงที่มีลักษณะคล้ายๆเส้นใยยึดส่วนอื่นๆไว้ (หากไม่เคยสังเกต ก็ลองเตาะไข่ดิบดู) พร้อมกันนี้ ก็ได้มีการยกแผนภูมินำมาประกอบว่าประเทศไทยมีการบริโภคไข่ต่อคนมากน้อยเพียง ใด ปรากฎว่า ต่ำกว่าหลายๆประเทศที่เจริญแล้ว โดยประเทศที่บริโภคไข่ต่อคนสูงสุด ก็คือญี่ปุ่น รองๆลงมาก็มีจีนแดง, สหรัฐอเมริกา, ฯลฯ คุณหมอยังให้ข้อคิดว่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ประชาชนส่วนใหญ่มีสติปัญญาที่ดี ทำไมอาหารมื้อเช้าทุกวัน ยังมีไข่เป็นส่วนประกอบเสมอ และทานกันทุกวัน แต่เรากลับยึดถือแต่ค่านิยมเรื่องคลอเลสเตอรอล.... การบริโภคไข่จะช่วยบำรุงสมองเป็นอย่างดี อย่าไปสนใจพวกอาหารเสริมที่โฆษณากันเลย ไข่นี่แหละสุดยอดของอาหารแล้ว หากอยากฉลาด ต้องทานไข่ คุณหมอยังเสริมว่าภาวะเลือดที่ข้นเกินไป จะไม่เป็นผลดี เพราะการนำสารอาหารไปหล่อเลี้ยงร่างกายจะไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นควรดื่มน้ำสะอาดให้มากๆในแต่ละวัน

ที่มา : http://heyhaparty.blogspot.com/2007/10/blog-post_4901.html